top of page
kobnokkala
Grasshopper Rider

"ต้นตอ "หม่าลา" ณ เมืองฉงชิ่ง
 เมืองหม้อไฟ

 

สำหรับเมืองหนาว อาหารที่พลาดไม่ได้ก็คือ สุกี้ หรือ หม้อไฟ ไม่ว่าประเทศจีน ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ ล้วนมีประเพณีรับประทานอาหารแบบหม้อไฟ เพียงแต่ใช้วัสตุที่แตกต่างกันเท่านั้น ในประเทศจีน ชาวภาคเหนือกับภาคตะวันตกนิยมทานหม้อไฟ แต่หม้อและอาหารที่ใช้นั้น มีความแตกต่างกัน
 

เมืองที่นิยมและขึ้นชื่อด้วยหม้อไฟอีกเมืองหนึ่ง คือ ฉงชิ่ง หรือจะว่าทั่วทั้งมณฑลเสฉวนก็ว่าได้ แต่หม้อไฟที่โน่นจะเป็นอีกแบบหนึ่ง จะมีรสเผ็ดมากกว่า ส่วนใหญ่เป็นหม้อกลมหรือหม้อสี่เหลี่ยม บางทีเป็นหม้อที่แบ่งเป็นหลายช่องก็มี อาทิ แบ่งเป็นสองช่องจะเรียกว่า "หม้อยวนยาง" เป็นช่องสำหรับน้ำซุปที่มีรสเผ็ดกับรสจืด ถ้าแบ่งเป็นสามช่องจะเรียกว่า "หม้อเบ็น" มีรสเผ็ด รสจืด(ซุปเห็ดหรือซุปกระดูกหมู) และรสเปรี่ยวหวาน(มักจะบอกว่าเป็นรสต้มยำกุ้ง) หม้อแบ่งมากที่สุดจะมีเก้าช่อง แต่หม้อแบบนั้นส่วนใหญ่จะเพิ่มรสเผ็ดไปเรื่อยๆ จนมีสำนวนพูดว่า "ไม่กลัวเผ็ด แต่กลัวไม่เผ็ด" หม้อไฟเสฉวนนอกจากมีเนื้อสัตว์แล้ว จะมีความพิเศษคือ จะมีปลาหรือเห็ดเป็นหลัก หม้อไฟที่ขึ้นชื่อเป็นอย่งมากคือ หม้อไฟทะเล และ หม้อไฟเห็ดพันชนิด

หม้อไฟทะเล หมายถึงหม้อไฟที่มีเนื้อปลาเป็นหลัก เนื่องจากมณฑลเสฉวนติดกับแม่น้ำแยงซี และมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน จึงมีกุ้งและปลามากมาย ชาวเสฉวนจะรู้กันดีว่า ปลายิ่งตัวเล็ก จะยิ่งอร่อย ฉะนั้น มักจะมีปลาที่ขายตั้งแต่ราคาพันหยวนขึ้นไป แต่ก็มีคนนิยมไปลิ้มรส


มณฑลเสฉวนมีพื้นที่ภูเขามากมาย จึงอุดมด้วยเห็ดนานาชนิด ดังนั้น เมื่อไปถึงเสฉวนแล้ว ถ้าอยากบำรุงสุขภาพ และไม่อยากทานเผ็ด ก็จะสั่งหม้อไฟเห็ดพันชนิด ส่วนใหญ่ผสมกับสมุนไพรอีกหลายชนิด เป็นอาหารที่สุดยอดมาก ได้ทานแล้ว จะไม่ลืมรสชาติอันซ่บซ่าโอชาลิ้นตลอดชีวิตแน่นอน
 

ต้นตำรับ พริกเสฉวน
หม่าล่าเป็นเครื่องปรุงรสชื่อดังของมหานครฉงชิ่ง ที่เดิมทีเป็นเมืองเอก ขึ้นกับมณฑลเสฉวน ส่วนผงพริกหม่าล่าสำเร็จรูปบรรจุซองถือเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของมณฑลยูนนาน ซึ่งคุณจะรู้สึกปากชาลิ้นชาเมื่อทานเข้าไป เพราะมีส่วนผสมหลักอย่าง ‘ฮัวเจียว’ หรือ ‘ชวงเจี่ย’ ที่แปลว่าพริกเสฉวน อีกพริกหอมในวงศ์ Zanthoxylum ใกล้เคียงกับมะแขว่นที่พบมากทางภาคเหนือของไทย ต่างกันที่ระดับกลิ่นและความฉุน

 

มันยังมีส่วนผสมเป็นพริกป่น เกลือ ผงชูรส และสมุนไพร เช่น โป๊ยกั๊ก ยี่หร่า ขิงผง พืชพรรณเหล่านี้ล้วนมีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาว บำรุงเลือด ไล่ความเย็น ทำให้หม่าล่าเป็นที่นิยมในเสฉวนซึ่งมีสภาพอากาศแบบกึ่งร้อนชื้น ก่อนจะแพร่หลายไปยังมณฑลอื่น ออกมาเป็นเมนูหลายประเภท เช่น ‘หมาล่าเซียงกัว’ เป็นเมนูเนื้อสัตว์ผัดรวมกับผักจนได้กลิ่นหอมแล้วเสิร์ฟในหม้อหรือชามโตๆ ‘หมาล่าทั่ง’ เป็นเมนูเนื้อสัตว์กับผัก ต้มในน้ำซุปสูตรเฉพาะที่ปรุงด้วยเครื่องเทศนานาชนิด ‘หมาล่าซาวเข่า’ เป็นเมนูเนื้อสัตว์หรือผักมาเสียบไม้แล้วปิ้งไฟ เป็นต้น้น

ขี่ตั๊กแตนจับช้าง

bottom of page